บริการทันตกรรม

บริการทันตกรรม รากฟันเทียมสำหรับผู้สูงอายุ

การเลือกใส่ฟันเทียม สำหรับผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเลือกแบบควรอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพราะเป็นการรักษาที่ละเอียดอ่อน และยังต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันอย่างต่อเนื่องเป็นประจํา เพียงเท่านี้ก็ทําให้ผู้สูงอายุในครอบครัว กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้น เมื่อคนที่เรารักมีความสุข มีรอยยิ้ม

ทันตกรรม ดิไอวรี่ สามารถให้การบริการทันตกรรมสำหรับผู้ป่วยพิเศษอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิเช่น ผู้ป่วยเรื้อรังทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ป้องกัน รักษาโรคและปัญหาต่างๆร่วม

ฟันเทียมหรือฟันชุดที่ 3 มี 2 แบบ คือ

1. ฟันเทียมแบบถอดได้ ที่เรียกกันติดปากว่า “ฟันปลอม” เป็นฟันเทียมที่ผลิตจากพลาสติกวางบนเหงือกหรือสวมเพดานปาก ต้องถอดออกมาทําความสะอาดทุกครั้งหลังรับประทานอาหารรต้องถอดก่อนนอนเพื่อแรงกด และลดการระคายเคือง แต่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับฟันเทียมแบบติดแน่นด้วยการฝังรากเทียม

2. ฟันเทียมแบบติดแน่นด้วยการฝังรากเทียม วัสดุที่ใช้ในการทํารากฟันเทียม ทําจากโลหะที่เรียกว่า ไททาเนียมเป็นวัสดุที่ร่างกายยอมรับ จะมีลักษณะเป็นทรงกระบอกคล้ายสกรู โดยทั่วไปแล้ว จะมีด้วยกัน 3 ขั้นตอนหลัก คือ 1. การวางรากฟันเทียม 2. การใส่เดือยรองรับครอบฟัน และ 3.การใส่ครอบฟัน อาจดูมีหลายขั้นตอนแต่เมื่อทําเสร็จแล้วจะพบว่าสะดวก สบาย ไม่เลื่อนหลุดไม่ต้องถอดเข้าถอดออกทําความสะอาดเหมือนฟันธรรมชาติและการฝังรากเทียมนี้ยังช่วยลดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย

 
    สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้สูงอายุเบื้องต้นนั้น ควรเริ่มจากการดูแลความสะอาดของฟัน อุปกรณ์ทำความสะอาด ควรเลือกด้ามจับที่ถนัดมือ ตัวแปรงควรมีขนาดเหมาะกับช่องปาก ขนแปรงนิ่ม ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันเมื่อขนแปรงบานหรือมีอายุการใช้งาน 2-3 เดือน สำหรับผู้สูงอายุที่ใส่ฟันปลอม ควรทำความสะอาดฟันปลอมด้วยการแช่ในน้ำสะอาด และควรถอดฟันปลอมอย่างน้อยวันละ 4-8 ชั่วโมง ไม่ควรใส่ฟันปลอมนอน เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อราในช่องปากได้ นอกจากนี้ผู้สูงอายุอาจเลือกใช้เครื่องมือช่วยทำความสะอาดฟันเพิ่มเติม เช่น แปรงซอกฟัน รวมถึงการทำความสะอาด กระพุ้งแก้มไปจนถึงโคนลิ้น เพื่อขจัดอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่ตกค้าง ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่นการสูบบุรี่ การเคี้ยวหมาก การรับประทานอาหารที่มีรสหวานหรือมีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ทั้งนี้ผู้สูงอายุควรพบทันตแพทย์เป็นประจำทุกๆ 4-6 เดือน เพื่อรักษาสุขภาพฟันและช่องปากให้แข็งแรงอยู่เสมอ